1. หัวหน้างานที่ดีรู้จักคิดก่อนพูด พูดในสิ่งที่ดี
สร้างสรรค์คนทุกคนมีปาก ที่จะพูดอะไร ก็ได้ตามใจเรา แต่หากเราเป็นผู้นำแล้วนั้น การใช้ปากตามใจเรา
ย่อมทำไม่ได้ครับเพราะ หากตอนนั้นเรากำลังโมโหอยู่ แต่นำสิ่งที่ไม่ดีไปลงกับลูกน้องแบบนี้ลูกน้องที่ไหน
ก็คงไม่อย ากทำงานกับเรา จริงไหมครับ !!
2. หน้างานที่ดีต้องรู้จักยิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าลูกน้องและคนอื่น ๆ ที่ร่วมงาน
คนบางคน อาจเป็นเสือยิ้มย าก โดยพฤติกรร ม แต่พฤติกรร มก็ย่อมสามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
หากเราเข้าใจในบทบาทของการเป็นผู้นำเพราะการเป็นผู้นำ ต้องเป็นคนที่สามารถเข้าถึงได้ในทุก ๆ คน
ทุก ๆ ระดับ ไม่มีอีโก้ ดังนั้น สิ่งที่จะลดอีโก้ตนเองได้นั้น ต้องรู้จักเป็นคนที่สดชื่นยิ้มแย้มแจ่มใส
อาจไม่ต้องถึงกับ เป็นคนที่ตลก แต่ต้องทำให้ลูกน้องสบายใจที่จะเข้ามาพูดคุยปรึกษาทั้งเรื่องงาน
และเรื่องส่วนตัวเพราะเมื่อไหร่ ที่ลูกน้องกล้าที่จะเดินเข้ามาหาผมเชื่อว่า ปัญหาย่อมคลี่คลาย
3. หัวหน้างานที่ดีต้องหัดเป็นคนที่เปิดใจรับฟังสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
การคิดคนเดียวย่อมได้ เพียงมุมเดียว แต่หากเรายอมเปิดใจฟังคนละเล็กละน้อย ข้อมูลในหัวเราย่อมมีมากขึ้น
และนั่นย่อมทำให้เราได้ข้อมูลในการ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก่อนตัดสินใจคนที่เป็นหัวหน้างานต้องกล้าเปิดใจ
ฟังสิ่งต่าง ๆ จากคนรอบข้างเพื่อนำมาปรับใช้ ให้งานเดินหน้าต่อไป
4. หัวหน้างานที่ดีต้องมีความคิดที่ดีทั้งเรื่องงาน เรื่องคน
ทั้ง ต่อหน้าและลับหลัง เริ่มต้นจาก “หัว” นั่นคือต้องมีความคิดที่ดีต่อคนรอบข้าง และรู้จักคิดก่อนพูดก่อนทำ
หากเรามีหัวที่คิดดี พูดดี ทำดี พฤติกรร ม เราย่อมสะท้อนด้านดีเช่น การพูดชมหรือตำหนิ ก็ต้องคิดเพื่อใช้คำพูด
ให้เหมาะสม กับคนนั้น ๆ
5. หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักเดินเข้าหาลูกน้อง เดินตรวจสอบการทำงาน
เดินหน้าแก้ไขปัญหา และพาทีมไปสู่เป้าหมายเดียวกัน การทำงาน หากหัวหน้านั่งอยู่บน หอคอยอันส่งเกียรติ
อย่างเดียวแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่างานนั้นเกิดปัญหาจากส่วนไหน อ วั ย ว ะ ใน ร่ าง ก าย ส่วนที่อยู่ต่ำที่สุด
นั่นคือ ขาแต่ขาก็ทำให้เราสามารถโยกย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งหากเราใช้ขาในการก้าวเดิน
เสมือนทำงานย่อมต้องมีเป้าหมายครับการย่ำอยู่กับที่ไม่สามารถขับเคลื่อน ทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
6. หัวหน้างานที่ดีต้องสามารถลงมือทำให้ลูกน้องเห็นเป็นแบบอย่าง
ว่าเราสามารถทำได้ หากพูดอย่างเดียว แต่ไม่ทำ ใครเขาจะเชื่อครับ เหมือนสุภาษิตที่กล่าวไว้ว่า 100 คำพูด
ไม่เท่ากับ 1 การกระทำ ผมว่าจริงนะครับพูด แล้ว ทำ ย่อมทำให้ลูกน้องเห็นเป็นตัวอย่าง
เช่น หากเราเป็นคนที่มาทำงานสายเป็นนิจแบบนี้ จะกล่าวตักเตือนลูกน้องที่มาสายก็ย่อมย ากครับ
ที่ลูกน้องจะเชื่อเรามันเข้าตัวแต่หากเรามาเช้าทุกวันแบบนี้ลูกน้อง ก็คงเกรงใจ และไม่กล้ามาสายหรือ
หากมาสายเราจะเรียกมาคุยเพื่อปรับพฤติกรร ม ลูกน้องคนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ตะขิดตะขวงใจ
เพราะเป็นหน้าที่ของเราซึ่งลูกน้องคนนั้น คงไม่กล้าเถียงเพราะลูกพี่เป็นตัวอย่างที่ดี ในเรื่องที่ลูกน้องทำผิด พูด + ทำ
ย่อมมีคุณค่าเสมอครับ
7. หัวหน้างานที่ดีต้องมีความเชื่อมั่นต่อลูกน้อง
และเชื่อมั่นต่อปัญหาว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางออกความเชื่อ นับเป็นจุดเริ่มต้น ในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ
โดยเฉพาะหากรับนโยบายจากผู้บริหารมาแล้วไม่มีความเชื่อการทำงานย่อมทำไปวัน ๆ ทำอย่างไร้เรี่ยวแรง
และทำอย่างไม่มีความสุขเพราะส มอง ถูกปิดกั้ น เรียบร้อย
8. หัวหน้างานที่ดีต้องรู้จักคิดในเชิงป้องกันก่อนลงมือทำ
เหรียญย่อมมี 2 ด้านให้คิด การคิดก็มี 2 ด้านทั้งการคิดบวกและคิดลบซึ่งการคิดบวกเป็นสิ่งที่ดี
ทำให้เราหมดทุ กข์แต่หากไม่อย ากทุกข์ ก็ต้องคิดลบ แต่เป็นการคิดลบในเชิงของการป้องกัน วางแผน
ก่อนลงมือทำหัวหน้างานที่ดีนอกจากการเปิดใจรับฟังแล้วก็ต้องนำมาข้อมูลมาคิด มาวางแผนซึ่งการวางแผน
ก็ต้องมีการประชุมเพื่อหาข้อมูลก่อนตัดสินใจเพราะหากเราไม่อย ากเสียเวลาแก้ไขก็ต้องวางแผนให้รอบคอบ
9. หัวหน้างานที่ดีต้องคิดเสมือนเราเป็นเจ้าขององค์กร
รู้จักทำงานเชิงรุกและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ในการทำงานการที่องค์กรแต่งตั้ง เราขึ้นมานำคนอื่น ๆ นั้น
เขาย่อมเห็นคุณค่าในตัวเราและคาดหวังให้เราช่วยคิด วางแผนในการขับเคลื่อนคน เพื่อให้เกิดผล
ของงานบรรลุตามเป้าหมายขององค์กร
ดังนั้น คนที่เป็นหัวหน้างาน จำต้องเข้าใจในบทบาท เข้าใจในสิ่งที่องค์กรกำลังก้าวเดิน เข้าใจวิสัยทัศน์พันธะกิจ
ขององค์กรและสามารถนำมาเป็นแผนงานที่สามารถเดินหน้าตามแผนได้ในทุก ๆ วันทุกเรื่องที่กล่าวมา
ล้วนเป็น สิ่งที่คนเป็นหัว ต้องนำไปใช้ในการบริหารงานบริหารคน
ขอบคุณ : d r f i s h.t r a i n i n g