1. เจ้านาย
คนที่เป็นนายคนมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันทั่วโลกคือ ฉลาดและมีไหวพริบ เขาจะรู้ว่าใคร ดี แ ต่ ป า ก และใครคนจริง
แต่นายส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ ทำ ล า ย คน ดี แ ต่ ป า กเพราะคนเหล่านี้คือหูตาบริษัท ที่พอมีเรื่องเม้าท์ก็จะถึงหูเจ้านายได้ทันที
แบบไม่ต้องสงสัย บางทีมีนายหลายคนแต่กว่าจะไปถึงนายใหญ่บางทีมนุษย์งานอย่างเราๆ อาจจะโดนกลบรัศมีหมด อย่ารอให้โดนเรียก
จงโชว์ผลงานที่โดดเด่น แล้วจะเป็นที่รักของนายค่ะ ไม่ใช่อะไร แต่เพราะเราทำงานได้ ไม่ใช่ ดี แ ต่ ป า ก ไงล่ะ
2. ขยันให้ถูกจุด
คนขยันมักไม่เป็นที่มองเห็นของเจ้านาย ถึงมีประโยคที่ว่า “ทำงานให้ ต า ย ก็สู้ ค น เ ลี ย แข้งขาเจ้านายไม่ได้”
และทุกบริษัทไม่มีใครไม่ชอบคนขยันแต่เมื่อเราทำแล้วก็ต้องพูด รู้จักแสดงผลงานของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตาทำ จนคนอื่นๆ
ขโมยผลงานไป เราก็ยังนิ่งเงียบเป็นทองไม่รู้ร้อนนั้นเขาเรียกว่า โ ง่ เ ข ล า ค่ะ ไม่อย ากให้เพื่อนร่วมงานสวมเขาบ่อยๆ
จงโขว์ศักยภาพด้วยการพูดด้วยค่ะ วาทศิลป์คือสิ่งดีงาม ทำเยอะต้องพูดให้เป็น คือชนะเลิศ
3. เข้าสังคมและอย่าสร้าง ศั ต รู
ใครๆ ก็ว่าสังคมเพื่อนร่วมงานป็นสังคมที่น่าเบื่อหน่าย วันๆ ไม่ค่อยทำหรอกงาน มาทำงานมานั่งนินทาคนอื่นๆ
พูดถึงละครที่พึ่งดูไปร้าน อ า ห า ร เปิดใหม่และเที่ยวไหนดี มีชีวิตแบบไฮโซแต่เงินเดือนโลว์คอร์ท อันนี้เข้าข่ายรสนิยมสูงแต่รายได้น้อย
เมื่อต้องเข้าสังคมร่วมกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้จงปรับตัวค่ะ อย่าแปลกแยกเพราะจะถูก เ ก ลี ย ด โดยฉับพลัน มีข้อมูลมาคุยแลกเปลี่ยน
กับเพื่อนร่วมงานบ้างแต่อย่าทิ้งงานตรงหน้า งานจบแต่หน้าที่เข้าสังคมยังคงดำเนินต่อไปค่ะ อย่าปลีกวิเวก เพราะเราต้องทำงานร่วมกับคนอื่นๆค่ะ
4. โฟกัสที่งานไม่ใช่คน
เดี๋ยวนะมาทำงานค่ะ ไม่ใช่มานั่งนินทาเจ้านาย ขายเพื่อนร่วมงานไม่ต้องค่ะ มาทำงานก็ต้องโฟกัสที่งาน
ทำให้เต็มที่ ถูกมอบหมายงานมาสิบแต่ทำให้เต็มร้อยไปเลยค่ะ แล้วผลตอบแทนจะตามมา
เคยมีฝรั่งคนหนึ่งถูกเรียกสัมภาษณ์งาน เมื่อบริษัทเปิดโอกาสให้ถาม สิ่งที่เขาถามคือ บริษัทมีการเจริญเติบโตไปในทิศทางไหน
มีอุปกรณ์และเทคโนโลยีเจิดๆ ให้เขาได้แสดงศักยภาพของตัวเองหรือไม่ นโยบายบริษัทจะเป็นยังไงอีก 5 ปี ข้างหน้า
เขาต้องรู้ข้อมูลประกอบเพื่อจะได้งัดศักยภาพของตัวเองมาใช้ให้ถูกจุด หากให้ข้อมูลเขาครบแล้วจึงค่อยตกลงเรื่องเงินเดือน
เพราะเขารู้ว่าเขาจะให้อะไรกับบริษัทได้บ้างและผลตอบแทนที่จะได้รับต้องเหมาะสมเช่นกัน
5. เรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับองค์กร
กว่าจะ ผ่ า ฟั น กับคู่แข่งมาได้ จงบอกตัวเองว่าเราก็มีของดีไม่น้อย การจะเข้ามาทำงานในองค์กรหนึ่งๆ ทุกบริษัทก็ต้องผ่านการคัดแล้วคัดอีก
ไม่ใช่ใครก็ได้จริงป่ะดังนั้นเมื่อเขาเลือกเราเข้ามาแล้ว จงหมั่นเรียนรู้และปรับตัวเสีย ไม่ใช่นั่งรอโอกาสเดินเข้ามาหา เรา
ควรเดินเข้าไปหาโอกาสด้วยการแสดงผลงานชิ้นโบแดงให้นายเห็นว่า เขาตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกเราเข้ามา
เคยมี HR บริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง ปฏิเสธรับพนักงานใหม่เข้าทำงาน ด้วยเหตุผลที่ว่า วันสัมภาษณ์งานหนุ่มน้อยคนนั้น
ถามถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองจะได้รับเมื่อเข้ามาทำงาน แต่ไม่ได้สนใจ เ นื้ อ ง า น ที่ตัวเองจะทำ
และได้แสดงศักยภาพของตัวเอง หากทุกคนคิดแบบนี้ก็จอดไม่ต้องแจวต่อค่ะ เพราะคุณปิดโอกาสให้ตัวเองตั้งแต่ประโยคแรก
แล้วว่าจะได้รับ OT เท่าไหร่ หากต้องทำงาน ส-อ โอ้วว อย่าขัดขาตัวเองล้มนะจ้ะ ขอเตือน!
ขอบคุณ : s a n o o k