1.คนที่ชอบฆ่ าน้อง ฟ้องนาย ขายเพื่อน
คนประเภทนี้ ค่อนข้างน่ากลัว ปากกับใจไม่ค่อยตรงกัน ไม่เคยมองคนอื่นในแง่ดี อิจฉาคนไปวัน ๆ
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
อยู่ห่าง ๆ จะดีที่สุด แต่หากต้องทำงานร่วมกัน ต้องยอมรับและเน้นความเป็นมืออาชีพคือประสานงาน
เท่าที่จำเป็นต้องทำ มีแผนสำรองเผื่อไว้ กรณีที่คนประเภทนี้แกล้งเรา อย่าประมาทครับ
และหากไม่ต้องทำงานด้วยก็ควรอยู่ห่าง ๆ ไว้ย่อมปลอดภัยที่สุด
2.คนที่พูดไม่คิด
คนประเภทนี้ มักใช้อารมณ์เป็นใหญ่ มักจะพูดโดยไม่สนใจคนอื่นจนบางครั้งทำให้คนฟัง เสียหาย
เสียหน้าเสียใจ และเสียความรู้สึก และมักไม่รู้ตนเอง หรือหากรู้ตนเองก็ไม่ทันที่จะดึงคำพูดนั้นกลับคืนมา
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
อย่าไปเก็บคำพูด ของคนเหล่านี้ มาทำให้ใจเป็นทุกข์ครับ ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวาง
และโฟกัสสิ่งที่ทำตรงหน้าให้ดีที่สุด ยกเว้น เรื่องที่เขาพูดถึงแม้จะทำให้เราเสียใจ
แต่ถ้าเป็นจริงอย่าง ที่เขาพูดก็ควรพิจารณานำไปปรับปรุงตนเองต่อไปครับ
3.คนที่ขาดสัมมาคารวะผู้อื่น
คนประเภทนี้ มักไม่ค่อยยิ้ม ไม่ค่อยไหว้ ให้เกียรติต่อคนที่อาวุโสมากกว่า เพราะคิดว่าตนเองนั้นมีความสามารถ
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
ให้เกียรติต่อคนเหล่านี้ ก่อนครับ เพราะบางครั้งเขาอาจต้องการให้คนอื่นมาให้เกียรติต่อตัวเขาก่อนก็ย่อมได้
ดังนั้น เราอย่าไปโต้แย้งในสิ่งที่เขาเป็น แต่ให้ใช้ใจแลกใจกับเขาเพื่อ ทำให้เขาเห็นว่า
การเคารพซึ่งกันและกันโดยเฉพาะต่อผู้หลักผู้ใหญ่ นับเป็นความงดงามที่ควรทำในองค์กร
4.คนที่มักกังวลตลอดเวลา
คนประเภทนี้มักขี้กลัว และไม่มั่นใจเวลา ที่ต้องทำสิ่งใหม่ ๆ จนขาดการลงมือทำที่มากพอ
และไม่กล้าเสนอ แนะความคิด ได้แต่รอคำสั่งให้ทำเพียงเท่านั้น
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
หากเรามีลูกน้องประเภทนี้ ควรให้กำลังใจและพร้อมรับฟัง ในการมอบหมายงานทุก ๆ ครั้ง
ว่าสามารถทำงานได้ตามเวลาที่กำหนดหรือเปล่า ถึงแม้งานอาจจะเร่งด่วน แต่ต้องพร้อมให้โอกาสเขาพูด
ถึงกรอบเวลาที่สามารถทำได้ รวมถึงการป้อนงานใหม่ ๆ โดยค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไปอย่าไปเร่งรีบมากเกินขอบเขต
5.คนที่ไม่รับฟังผู้อื่น
คนประเภทนี้มักคิดว่าตัวเองเก่ง และรู้ดีที่สุดในการทำงานแต่ละเรื่อง จนขาดการรับฟังผู้อื่น
เพราะมองว่าเสียเวลาและเข้าใจดีอยู่แล้ว โดยลืมมองไปว่าการทำงานอาจต้องเปลี่ยนวิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนา
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
ทำใจเยอะ ๆ ปล่อยวางเชิง อารมณ์เยอะ ๆ ก่อนที่เราจะสื่อส า รกับเขาและเตรียมข้อมูล
ที่จะสื่อส า รให้แปลกและแตกต่างจนเขาคาด ไม่ถึงและพร้อมรับฟังในสิ่งที่เกิดขึ้น
หากคนที่ไม่รับฟัง เป็นหัวหน้างานเรา และเราได้นำเสนอข้อมูลไปให้พิจารณาแล้ว
หากเขาไม่ตัดสินใจจงก้มหน้าก้มตา ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดในสิ่งที่ทำได้เต็ม 100 % ต่อไป
หรือหากรู้สึกไม่มีความสุขในการทำงานกับคนแบบนี้ จงมองทางเลือกอื่น ๆ ไว้บ้ างครับ เพราะชีวิตไม่มีทางตัน
6.คนเฉื่อย
คนประเภทนี้ มักทำงานไปเรื่อย ๆ ทำแบบเดิม ๆ ถึงแม้จะมีวิธีการที่ดีกว่าแต่ก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตนเอง
ขาดความมุ่งมั่น ทำงานค่อนข้างช้า ไม่สนใจว่าคนอื่นที่รับงานต่อว่าจะเป็นอย่างไร ทำงานทันเวลาไหมเพราะส่งงานล่าช้าทุกที
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
ต้องทำใจเยอะ ๆ หากหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลง ตนเองในทันที แต่คนเราต้องมีความหวังครับ
ถึงแม้จะริบหรี่ 555คนประเภทนี้ที่เขาไม่เปลี่ยนแปลงอาจเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในสิ่งใหม่ ๆ
การสนับสนุนให้เขาได้ไปเปิดโลก
สร้างมุมมองใหม่ ๆ เติมพ ลั งให้ชีวิต นับว่าเป็นสิ่งที่ดี โดยส่งไปอบรมภายนอกองค์กร
หรือให้ลองทำงานใหม่ ๆอาจทำให้เขาเปลี่ยนแปลง ตนเองก็ย่อมได้ครับ
7.คนที่ชอบกินแรงเพื่อนไม่ค่อยทำงาน
คนประเภทนี้ไม่ค่อยชอบลงมือทำงาน แต่ชอบพูดคุยโม้โอ้อวดไปวัน ๆ ว่าเก่งอย่างนั้นอย่างนี้
พอจะทำงานก็หมดเวลาเลิกงานกลับบ้ าน
วิธีการรับมือกับคนแบบนี้
ให้กำลังใจเขา พูดในแง่ดีถึงความสามารถของเขาที่เขามีให้เขาเกิดความภาคภูมิใจ และกล้าลงมือทำ
ให้เห็นประจักษ์กับสายตาผู้อื่น อย่าไปว่าเขาในแง่ร้ า ยคนพวกนี้ชอบต่อต้านครับ
แรงมาก็อย่าไปแรงกลับควรผ่ อ นหนักเป็นเบาจะดีกว่าครับ
ขอบคุณ : J u n j a o n e w s