การ “เป็นหนี้” ถือว่าเป็นปัญหาที่หนักสุดเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าใครเป็นหนี้ที่แทบจะสิ้นเนื้ อประตาตัวจริงๆ
แล้วล่ะก็ ขอบอกเอ าไว้ได้เลยว่าแก้ปัญหาได้ค่อนข้างย ากจริงๆ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะแก้ไขอะไรไม่ได้เลย สำหรับคนที่เป็นหนี้นั้น อันดับแรกเลย
คุณต้องตั้งสติให้ได้เสี ยก่อน คิดเอ าไว้เสมอว่าการที่เราเป็น
หนี้นั้นเราไม่ได้ไปทำร้ ายใคร ทุกปัญหาย่อมมีทางออกอยู่เสมอๆ
แต่ก็ห้ามหันไปหาทางออกง่ายๆ เด็ ดข าดนะ อย่ างเช่น ไปหาเงิ นก้อนอื่น
เพื่อจะมาโปะหนี้เก่า โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ เพราะว่ามัน
จะยิ่งทำให้หนี้ของคุณเพิ่มเร็วขึ้นเร็วเท่าตัว และทำให้คุณเป็นหนี้หนักกว่าเดิมไปอีก
สิ่งแรกที่คุณควร จะทำก็ก็คือ เริ่มไปเจรจากับคนเจ้าหนี้ที่ให้เรากู้เงิ น
มา เวลาที่คุณ “เป็นหนี้” อยู่ก็สามารถเดินเข้าไป
หาเจ้าหนี้เพื่อขอประนอมหนี้ในส่วนหนึ่ง เพราะเจ้าหนี้ต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นธนาคาร หรือพวกบริษัทบัตร เครดิตต่างๆ ก็ตาม เขาก็อย ากได้
เ งินคืนอยู่แล้ว ถึงแม้จะได้ดอ กเบี้ยน้อยลงกว่าเดิมก็ตาม แต่ก็ยัง
ดีกว่าปล่อยให้เป็นหนี้เสี ยไปเลย ให้ลองไปคุยลองเจรจาดูให้หมด
กับเจ้าหนี้ทุกๆเจ้าที่เรานั้นมี จากนั้นให้ลองแยกหนี้ดีกับหนี้เสี ยออกจากกัน
แล้วให้เริ่มจัดการกับหนี้เสี ยก่อน โดยจัดการจาก
หนี้เสี ยที่มีต้นทุน หรือด อ กเบี้ ยที่สูงที่สุดก่อน
ซึ่งเงิ นที่เราจะหามาปิดหนี้เสี ยเหล่านี้ คุณอาจจะ
ต้องตัดใจข าย “ทรัพย์สิน” บางอย่างออกมา เพราะส่วนหนึ่งที่เราจะเป็นหนี้นั้น
เชื่อว่าน่าจะมาจาก การที่เราเอาเ งินไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆไว้
ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือโทรศัพท์มือถือต่างๆ ถ้ามาถึงจุด
ที่รายได้ไม่เพียงพอ และมีรายจ่ายของ ด อ กเบี้ยมากจริงๆ
เราอาจจะต้องข ายสิ่งเหล่านี้ เพื่อที่ จะเอ าไปปิดหนี้ก่อน และภาระด อ กเบี้ ยอาจลดลงด้วย
แล้วพอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ก็ค่อยกลับ ไปซื้อใหม่ก็ยังได้
บางทีอาจได้รุ่นที่ใหม่กว่าและดีกว่าเดิมก็ได้
อีกข้อที่ควรระวัดระวังเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ ส่วนใหญ่แล้วทุกๆคนจะมีสินทรัพย์
จำพวกที่อยู่อาศัยแน่ๆ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะหาเงิ น มาผ่อน
จ่ายได้ไหม ห้ามให้เอ าที่ดิน หรือบ้านไปค้ำประกัน
เพื่อเคลียร์หนี้สินโดยเด็ ดข าด เพราะว่าถ้าคุณ
เอ ากลับคืนมาไม่ได้จริงๆ บ้านคุณจะโดนยึดไปในทันที
และปัญหาจะยิ่งหนักกว่าเดิม ยังไงก็แล้วแต่
ห้ามเอาบ้านไปหมุน เพื่อเอ าเงิ นมาโดยเด็ดขาด!
แล้วถ้าคุณเริ่มลดภาระเรื่องหนี้ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว
ปัญหาน่าจะเบาขึ้นได้เยอะเลยทีเดียว แล้วทีนี้ละก็
คุณก็ต้องมาจัดการกับตัวเอง ที่เป็นต้นตอของ
ปัญหาก่อน เพราะการที่คุณเป็นหนี้นั้น มันเกิดจากที่คุณหาเ งินได้
ไม่เท่ากับเงินที่ได้จ่ายออกไป ทำให้คุณต้องไปหาหยิบยืมเงิ นมาจากคนอื่น
เพื่อให้พอกับค่าใช้จ่ายที่เรามี ดังนั้นแล้ว ถ้าช่วงที่
สถานการณ์ยังไม่ค่อยดีมากนัก คุณอาจจะต้องเหนื่อยขึ้นอย่ างแน่นอน
ลองมองหาช่องทางที่ ทำให้มีรายได้เพิ่มได้
