Home ข้อคิด คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ 3 อย่างนี้ อย่าไม่เข้าไปช่วยลูก ถ้าอยากให้ลูกได้ดี

คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ 3 อย่างนี้ อย่าไม่เข้าไปช่วยลูก ถ้าอยากให้ลูกได้ดี

8 second read
ปิดความเห็น บน คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ 3 อย่างนี้ อย่าไม่เข้าไปช่วยลูก ถ้าอยากให้ลูกได้ดี

พ่อแม่หลายคนชอบช่วยเหลือลูกอยู่ตลอดเวลา

เพราะ กลั วว่าลูกจะทำอะไร ได้ไม่ ดี พอ แต่รู้ไหม…

3 ข้อ นี้ ถ้าพ่อแม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หรือว่ามีส่วนช่วยเหลือลูกๆ น้อยที่สุดจะเป็นผลดีกับลูกมากเลยล่ะ

1.ไม่เข้าไปช่วยลูกทำการบ้าน มีคุณแม่ท่านหนึ่งเล่าประสบการณ์ว่า…

ตนเองไม่เคยไปสอนการบ้านให้ลูกชาย แม่จะเตื อ นลูกมากกว่าว่า…

เวลาไหนควรไปทำการบ้านเมื่อทำเสร็จแล้วก็บอกแม่คำหนึ่งก็พอ

ส่วนการตร ว จว่าลูกชายทำถูกหรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของตัวเขาเอง

หรือ ให้เรียนรู้ว่าถูก ผิ ด จากที่โรงเรียน

แม่มีหน้าที่เพียงเซ็นชื่อก็แค่นั้น ในตอนแรกลูกชายไม่พอใจ โดยพูดว่า…

“แม่ของคนอื่นจะช่วยตร ว จ การบ้านให้ด้วย ทำไมแม่ ขิ้ เ กี ยจแบบนี้ล่ะ”

เลยตอบลูกชายไปว่า..

“ไม่ใช่เพราะแม่ขิ้เกีย จ หรอก ลูกคิดดูนะ ถ้าแม่ช่วยลูกตรว จ การบ้านแล้ว

ลูกจะรู้ได้อย่างไรว่าผิ ด ตรงไหน แล้วต่อไปลูกจะตร ว จ เองเป็นไหม

จำไว้นะว่า…ในตอนนั้นไม่มีใครสามารถมาช่วยลูกตรว จได้ ลูกจะได้ฝึกการตร ว จ ความถูกต้อง และ เรียนรู้ด้วยตนเอง”

ในห้องเรียนลูกจะเจอบทเรียนก่อน และ จึงจะได้ทำข้อส อ บ แต่ในโลกแห่งความจริง

ลูกจะได้เจอบททดสอบก่อนแล้วถึงจะได้บทเรียน นี่คือ สิ่งที่ลูกต้องเรียนรู้

เธอสอนให้ลูกรู้จักพึ่งตนเอง เมื่อเจอปัญหาก็ต้องคิดใคร่ครวญด้วยตัวเอง

ถ้าคิดไม่ออกจริงๆค่อยขอคำแนะนำจากแม่ได้

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขิ้เกี ยจ” ไม่เคยชี้นำลูกให้เรียนรู้

แต่ปล่อยให้ลูกทำอย่างอิสระคิดอย่างอิสระ แต่เธอก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ

เธอยังให้ความสนใจกับลูก และใช้วิธีการที่ชาญฉลาดเพื่อช่วย เมื่อลูกมีปัญหา

มันสอนให้รู้ว่า… ผู้ปกครองควรที่จะปล่อยลูกของตนเองบ้างในเวลาอันสมควร

ให้เขาได้เรียนรู้และใช้ชีวิตของตนเองอย่างเต็มที่ สิ่งที่ตัวอย่างแม่ๆ ทั้งหลายทำนั้น มันเป็นวิธีในการปลูกฝั งลูกได้ดีมาก

เพื่อให้เขาสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง

พ่อแม่ทุกคนมักจะกังวลกับลูก จนไม่กล้าปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้ด้วยตัวเขาเอง

“คุณควรเอาความกังวลเก็บไว้ในใจและปล่อยให้เขาโบยบินไปด้วยวิธีของเขาเถิด

เพื่อให้เขามีปีกที่แข็งแร งพอ ให้เขาอยู่ได้ด้วยตัวเองในวันที่ไม่มีคุณแล้ว”

2.สอนให้ลูกเรียนรู้จักพึ่งพาตัวเอง คุณแม่เจียเจียได้เล่าประสบการณ์ว่า…

เธอจะไม่เข้าไปช่วยลูกในสิ่งที่พวกเขาทำได้เอง

เช่น เมื่อห้องนอนของเจียเจียไม่เป็นระเบียบ แม่จะเตื อ น เจียเจียว่าควรจัดห้องยังไง

เพื่อให้เป็นระเบี ยบ และจะให้ลูกทำเองในช่วงเปิดภาคเรียน คุณครูขอให้

นักเรียนห่อปกหนังสือเรียนเล่มใหม่ของเทอมนี้ แต่เจียเจียทำไม่เป็น

แม่จึงสอนเจียเจียห่อเป็นตัวอย่ าง จากนั้นก็ปล่อยให้เจียเจียได้ทำเองทั้งหมด

เจียเจียไม่อย ากห่อเอง จึงไม่ยอมขยับมือ แม่ก็ไม่สนใจอะไรเธอ

ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆพร้อมชี้นิ้วบอกให้ทำแต่ไม่เข้าไปช่วยห่อ ทำให้เจียเจียต้องนั่งห่อเองทั้งหมด

แม่ของเจียเจียพูดว่า….

“ความจริงถ้าฉันจะเข้าไปช่วยห่อจะประหยัดเวลาได้มากเลยล่ะ…

แต่เจียเจียจะไม่มีวันเรียนรู้ที่ห่อปกหนังสือได้ด้วยตัวเอง ฉะนั้นนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดคือ

ปล่อยให้เจียเจียห่อเอง ถึงจะห่อไม่เรียบร้อยก็เถอะ”

ประสบก ารณ์ของครูพบว่า : “แม่ขิ้เกีย จ” ไม่เคยขยั นหมั่นเพี ยรในการช่วยลูก ในการทำสิ่งต่าง ๆ

แต่ให้ลูกได้พึ่งพาอ าศัยตัวเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่เ ฉ ยเมยต่อการฝึกฝน คือ

การสร้างความรับผิ ด ชอบให้กับลูกได้เป็นอย่ างดี

3.ให้ลูกเรียนรู้ที่จะเติบโตด้วยตัวเอง
พ่อแม่หลายคนชอบสร้างความคาดหวังในตัวลูกมากไป อย ากให้ลูกทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ

เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี แต่การทำเช่นนี้ จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด และกลายเป็น

ไม่อย ากฟัง และทำเป็นหูทวนลมไม่ใส่ใจกับสิ่งที่พ่อแม่พูดเลย แต่… มีครอบครัวหนึ่ง

ที่กลับทำตรงกันข้ามเลย ในช่วงสุดสัปดาห์ ฮาวฮาวเล่ น เ ก มเป็นเวลานานมากและไม่ทำการบ้าน

แม่จึงถามว่า “ลูกกะจะเล่น เ ก ม ถึงกี่โมง”

ฮาวฮาวตอบว่า “ขอเล่นอีก 10 นาทีนะแม่”

แม่ตอบกลับไปว่า “ได้ ต้องรักษาคำพูดนะ”

เมื่อผ่านไป 10 นาที แม่ก็เดินกลับมาดูอีก ฮาวฮาวก็ยังคงนั่งเล่นอยู่ที่เดิม

แม่ โ ก ร ธ มาก แต่ก็ต้องสงบสติ อารมณ์และพูดอย่างใจเย็นว่า… “ปกติลูกเป็นคนรักษาคำพูดไม่ใช่เหรอ”

ในตอนนั้นฮาวฮาวก็เริ่มรู้สึก ผิ ด จากนั้นก็เดินไปปิดสวิทช์และรีบไปทำการบ้าน

นั้นเป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้น แม่ของฮาวฮาวเคยพูดหลายรอบเกี่ยวกับ

นิทานเรื่อง “การเป็นคนน่าเชื่อถือ” และ นั้นก็ทำให้ฮาวฮาวค่อยซึมซับเข้าไป

ปกติแม่จะเป็นคนที่ให้ความสำคัญ ในเรื่องการอ่ านหนังสือเป็นอย่างมาก

จึงได้ซื้อนิทานสร้างแร งบันดาลใจให้อ่ านมากมาย และจากนิทานเหล่านี้

ทำให้ฮาวฮาวเรียนรู้ที่จะนำมาใช้กับตัวเอง เสริมสร้างนิสัยของตนเอง อดทน อดกลั้น ทำให้ตนเองเป็นคนที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น

ประสบการณ์ของครูพบว่า : “แม่ขิ้เกีย จ” ไม่ขยันที่จะบ่นทั้งวันแต่ใช้เหตุผลในการพูดคุย

เพราะเธอรู้ดีว่าลูกไม่ช อ บ การบ่น แต่เธอขยั นในการหาวิธีในการรับมือเพื่อปลูกฝั ง สิ่งที่ดีให้กับลูก

ขอบคุณ : l i f e b e e p e r

Load More Related Articles
Load More By J_Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

เตือนใจมนุษย์เงินเดือน จะได้ไม่เสียใจตอนแก่..

ความจริงเป็นสิ่งไม่ ต า ย แต่ความจริงหลายๆ อย่างก็ย ากท … …