Home ข้อคิด ยุคสมัยนี้จะเรียนเก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าใช้ชวิตให้เอาตัวรอดได้(น่าอ่านมาก)

ยุคสมัยนี้จะเรียนเก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าใช้ชวิตให้เอาตัวรอดได้(น่าอ่านมาก)

9 second read
ปิดความเห็น บน ยุคสมัยนี้จะเรียนเก่งแค่ไหน ก็ไม่เท่าใช้ชวิตให้เอาตัวรอดได้(น่าอ่านมาก)

การศึกษานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่หลายๆคนยังจำกัดคำว่า“การศึกษา”ไว้ในแค่ห้องเรียน ตัดสินว่าคนนั้นมีการศึกษาหรือไม่มีความรู้

จากวุฒิที่เรียนจบออกมา และหลายๆคนนั้นก็เชื่อว่าการที่ได้เรียนจบสูงนั้น ก็จะทำให้เรานั้นมีหน้าที่การงานที่ดีดีต่ออนาคต

แต่ในโลกความเป็นจริงแล้วการที่เรานั้นเรียนสูงก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะประสบความสำเร็จเสมอไปเพราะฉะนั้นการเรียนสูงมากแค่ไหน

มันก็ไม่ใช่ประเด็นการที่จะทำงานให้เป็นนี่แหละค่ะ คือประเด็นที่สำคัญแล้วเราก็จะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน

เรื่องการเรียน

การศึกษาบ้านเรานั้น ก็เหมือนกับว่าเป็นเรื่องของคนที่เรียนเพียงคนเดียวการที่เรียนดีเรียนแย่ ก็อยู่กับตัวเองทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะพ่อแม่

ครูบาอาจารย์หรือพี่น้อง ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และบางครั้งสถานที่ที่เราเรียนนั้น จบมาก็ไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานของเรา แน่นอนว่า

ทุกสิ่งก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และฝีมือด้วยเช่นกัน ที่จะทำงานและใช้ชีวิตอยู่กับผู้อื่น แต่ถ้าคุณนั้น มีผลการเรียนที่ออกมาดี

ก็จะมีโอกาสว่าจะทำงานเก่ง เพราะกว่าจะจบ ก็ต้องฝึกฝนกันมากมายเลยทีเดียวซึ่งนั่นก็คิดว่าเคยผ่านกันมาทุกคนอย่างแน่นอน

ในชีวิตวัยนักศึกษาเรานั้นจะเห็นได้ว่าในช่วงที่เราศึกษาอยู่นั้น หากเรานั้นได้คิดผิด ทำผิดมันก็จะลงโทษเราได้อย่างเดียว

ก็คือเกรดผลการเรียนของเรานั่นเอง ถ้าออกมาไม่ดีก็ติด F ต้องไปเรียนใหม่กับรุ่นน้องแต่บางคนนั้นก็ไม่ได้ถืออะไร แต่บางคนก็ถึงกับขั้นเครียด

ที่จะต้องไปเรียนกับรุ่นน้อง ชีวิตในวัยเรียนนั้น มีเรื่องเครียดกี่เรื่องเองเท่านั้นค่ะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสนุกซะมากกว่า บางคนก็ไม่อย ากจบออกมา

เพราะชีวิตในช่วงวัยเรียนนั้น มีความสนุกมาก เมื่อจบก็จะอยู่ในช่วงวัยทำงานซึ่งนั่นชีวิต ก็อาจจะมีความสนุกน้อยลงนั่นเองค่ะ

ต้องทำงานหาเ งิน ไม่ค่อยมีเวลาทำสิ่งที่ตัวเองแบบอย ากผ่อนคลาย

เรื่องที่สองก็คือเรื่องการทำงาน

การเรียนเป็นอะไรที่ง่ายค่ะ สอบไม่ผ่านก็ลงเรียนใหม่แต่เมื่อย้อนมองกลับมาแล้วก็ทำงานนั้น ข้อหาทำแล้วไม่ผ่าน

ก็จะเกิดผลหลายๆอย่างตามมา หรือเพื่อนร่วมงานนั้นขาดความเชื่อถือในตัวเรานั่นเองค่ะ นี่แหละคือโลกความจริง

เมื่อเราผิดพลาดแต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นโร คที่หอมหวานเมื่อเราทำงานสำเร็จ คุณนั้นจะเกิดคุณค่าต่อผู้อื่น

ในวงกว้างเลยทีเดียว รักคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลายก็เชื่อว่า ถึงแม้จะเรียนจบจากช่วงวัยเรียนแล้ว แต่เขาก็ไม่สามารถ

หยุดหาความรู้อยู่แค่นั้น ไม่ได้ต้องศึกษาอะไรแบบจริงๆจังๆในระดับที่สูงขึ้นไปอีก หรือที่เรียกกันว่า มหาลัยชีวิตนั่นเองค่ะ

เพราะไม่มีผลต่อชีวิตของเรา และเรานั้น ถ้าจะลงมือทำอะไรก็ต้องศึกษาไปจนวันต าย คนที่ชีวิตล้มเหลว ก็มีเพียงแค่สาเหตุเดียว

คือไม่รู้จักที่จะเรียนรู้และแก้ไขในสิ่งที่ผิด ทำผิดอยู่ซ้ำซ้ำจนไม่มีคุณภาพ และหมดความน่าเชื่อถือ

สุดท้ายก็คือตัวเองนั้น เกิดความล้มเหลวค่ะ นี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกว่าการเรียนสูงนั้นไม่ได้เป็นสิ่งสำคัญทั้งหมดในชีวิต

แต่สิ่งสำคัญว่าคุณนั้น มีประสบการณ์หรือรู้จักเรียนรู้ในการใช้ชีวิตให้เป็นมากกว่าเสียอีก การที่เรานั้นจะสำเร็จได้

เราต้องรู้จักเรียนรู้ในการใช้ชีวิตในการทำอะไรต่างๆ การเรียนไม่ได้หยุดแค่ที่การจบ แล้วได้ใบปริญญามา แต่เราต้องศึกษาสิ่งต่างๆในชีวิต

นั่นก็คือชีวิตจริงของเราค่ะ ในการเรียนเราจะได้รับ“บทเรียน”ก่อน…จึงเจอ“บททดสอบ”แต่ในชีวิตจริง เราจะเจอ“บททดสอบ”ก่อน…จึงจะได้“บทเรียน”

“วิชาที่ย ากและใช้เวลาเรียนมากที่สุด คือวิชาชีวิต

เพราะไม่มีปิดเทอม ไม่มีวันหยุดเรียนจนวันตาย

ที่สำคัญไม่มีหนังสือ ไม่มีสอนพิเศษและ

ครูที่ดีที่สุด คือความผิดพลาดและต้องเรียนรู้เอง”

ขอบคุณ : b i t c o r e t e c h

Load More Related Articles
Load More By J_Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

เตือนใจมนุษย์เงินเดือน จะได้ไม่เสียใจตอนแก่..

ความจริงเป็นสิ่งไม่ ต า ย แต่ความจริงหลายๆ อย่างก็ย ากท … …