Home ข้อคิด เริ่มฝึกลูกอย่างไร..ให้ลูกเป็นคนจิตใจดีถึงไม่เก่งมากก็เอาตัวรอด (อย ากให้พ่อกับแม่ได้อ่าน)

เริ่มฝึกลูกอย่างไร..ให้ลูกเป็นคนจิตใจดีถึงไม่เก่งมากก็เอาตัวรอด (อย ากให้พ่อกับแม่ได้อ่าน)

3 second read
ปิดความเห็น บน เริ่มฝึกลูกอย่างไร..ให้ลูกเป็นคนจิตใจดีถึงไม่เก่งมากก็เอาตัวรอด (อย ากให้พ่อกับแม่ได้อ่าน)

เพื่อเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสุขโตไปไม่ลำบาก ไม่ใช่แค่เรียนให้เก่งอย่างเดียว ความรู้รอบตัวก็สำคัญ สอนลูก ต้องเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก

ไม่ต้องเก่งขอแค่เป็นคนดีนะลูก…เรื่องที่แม่ต้องสอนลูก ตั้งแต่ยังเล็กแนะนำพ่อแม่ผู้ปกครอง ถึงเรื่องที่แม่ต้องสอนลูกว่า การสร้างสังคมที่ดี

สามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา และต้องช่วยกันปลูกฝังความดี สู่หัวใจลูกตั้งแต่ยังเล็กสำหรับเทคนิคการเลี้ยงลูกให้จิตใจดี ต้องเริ่มฝึกลูกอย่างไรบ้าง

มีวิธีการสอนลูกให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสุขโตไปไม่ลำบาก

“ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง”

ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป เพราะการที่เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และลดการพึ่งพาคนอื่น

จะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจในตัวเองลดความกังวลและพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะอื่นๆในชีวิตประจำวัน

“ฝึกระเบียบวินัย”

ฝึกระเบียบวินัย เพื่อเป็นทักษะการควบคุมตนเอง และยับยั้งชั่งใจให้แก่ลูกนับเป็นพื้นฐานต่อการทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เล็กๆ อาทิการตื่นนอน และเข้านอนให้เป็นเวลา รับประทานอาหารเป็นเวลา การเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทางเป็นต้น

“สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า”

สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า สำหรับเด็กเล็ก โลกของเขายังไม่กว้างใหญ่มากนัก การเล่าเรื่องราวต่างๆ

จากนิทานหรือเกร็ดประวัติศาสตร์อย่างง่ายๆเกี่ยวกับบุคคล ที่ทำเพื่อผู้อื่นจะช่วยทำให้ลูกเข้าใจ

เรื่องการช่วยเหลือกันในสังคมได้ดีขึ้น คนเป็นพ่อแม่ อาจถามลูกว่า หากเกิดเหตุการณ์อย่างในนิทานขึ้นกับลูกลูกจะทำอย่างไร

ลองฟังคำตอบ ของลูก แล้วชื่นชมหรือ ตั้งคำถามแนวทางที่ถูกหลีกเลี่ยง ที่จะวิจารณ์และตัดสินว่า..

คำตอบ ของลูก ถูกหรือผิด เพื่อให้ลูกได้ฝึกคิดด้วยตนเอง โดยมีพ่อแม่เป็นผู้ชี้นำแนวทางที่เหมาะสม

“สอนเรื่องอารมณ์ต่างๆ”

สอนเรื่องอารมณ์ต่างๆ พ่อแม่มักให้ความสำคัญ กับการสอนลูกให้เป็นเลิศในด้านวิชาการ สอนเรื่องมารย าทกฎระเบียบ แต่กลับลืมเรื่องการรับมือกับอารมณ์

ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ดังนั้นพ่อแม่ควรเริ่มต้น สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ต่างๆ ของตนด้วยการเอ่ยชื่อ อารมณ์นั้น ๆ

เมื่อลูกแสดงออกมาอาทิ “เมื่อลูกร้องไห้ ที่ไม่ได้ของเล่นอาจบอกลูกว่า แม่รู้ว่าลูกกำลังเสียใจ ที่ไม่ได้ของเล่น” หรือ “เมื่อลูกโกรธที่ถูกแย่ ง ขนม ต้องบอกว่า

ลูกกำลังโกรธใช่ไหม แต่แม่อย ากให้ลูกหายใจลึกๆ ใจเย็น ๆ ”

การสอนเช่นนี้ จะช่วยทำให้ลูกเรียนรู้ ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตนเมื่อโตขึ้นและไม่นำอารมณ์ของตนเอง มาเป็นข้ออ้างในการทำร้า ยคนอื่น

“การพาลูกพบเจอกับผู้คนที่ หลากหลาย”

การพาลูก พบคนหลากหลาย นับเป็นการฝึกให้ลูก มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และเข้าใจสังคมมากขึ้น

คือ ทำให้เขาเห็นว่า ในโลกนี้มีคนที่แตกต่างหลากหลายทั้งสีผิวเชื้ อ ชา ติภาษา และความคิดซึ่งสิ่งที่แตกต่างเหล่านี้ ไม่ได้แปลว่า ผิดเสมอไป

การพาลูกออกเดินทางท่องเที่ยว ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนที่แตกต่างพร้อมกับคำชี้แนะ ที่เหมาะสมจะทำให้ลูกเข้าใจ ความเป็นไปของโลกใบนี้ได้ดีขึ้น

“ฝึกลูกช่วยงานบ้าน”

ฝึกลูกช่วยงานบ้านเริ่มได้ตั้งแต่เล็ก โดยส่วนใหญ่เด็กวัย 2 ขวบ เริ่มฟัง และเข้าใจคำสั่งง่ายๆ ดังนั้น เราควรฝึกลูกให้ช่วยงานบ้าน ขั้นพื้นฐาน

เช่น เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จแล้ว นำเสื้อผ้าที่สวมแล้ว ไปใส่ตะกร้าเป็นต้น การให้ลูกช่วยงานบ้าน โดยเริ่มจากสิ่งที่เขาควรต้องรับผิดชอบเอง

ทำให้เด็กได้เรียนรู้ เรื่องหน้าที่ของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตในสังคมเมื่อลูกเริ่มโตขึ้น ค่อยเพิ่มหน้าที่ภายในบ้านให้เหมาะสมกับวัย

ลูกก็จะเรียนรู้ว่า. สิ่งต่างๆที่ตนทำ มีผลกระทบต่อคนรอบข้างอย่างไรนับเป็น “จุดเริ่มต้น” ของการเอาใจเขาใส่ใจเรา

“สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา”

สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา บ่อยครั้งที่ลูกทำผิดพล าดพ่อแม่หลายคนจะใช้วิธีตำหนิ หรือ ดุ ลูกเพื่อไม่ให้ลูกทำผิดอีก ซึ่งจะทำให้เด็กคิดว่า

การทำผิดเป็นเรื่องใหญ่ และกลัวที่จะทำผิ ด หรือจะปกปิดความคิดของตนเองโดยการโกหก ดังนั้นพ่อแม่ควรเริ่มต้น ในการให้อภั ยลูก

แล้วชวนลูกแก้ไข้ปัญหา หลังจากที่เกิดข้อผิ ด พล าดอาทิ เด็กวิ่งแล้วทำน้ำหกพ่อแม่ควรฝึกให้เด็ก รับผิดชอบในสิ่งที่ทำ

คือ เช็ดน้ำและเก็บแก้วให้เป็นที่หลังจากนั้นชวนให้ลูกคิดว่า ครั้งหน้าสามารถระวังอย่ างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

นอกจากเรื่องที่แม่ต้องสอนลูกแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองคนในครอบครัว ก็ต้องเป็นต้นแบบ

หรือแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก เพราะการเห็นแบบอย่างที่ดีจะทำให้เด็ก สามารถจดจำการทำดีได้มากกว่าการใช้เพียงคำพูด

การเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทน ความเข้าใจเป็นสำคัญนะคะกว่าที่ลูกจะรู้เรื่อง และทำตามในสิ่งดีๆก็ต้องใช้เวลาฝึกฝนปฏิบัติเป็นประจำ

หากพ่อแม่หมั่นสอน สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องสอนลูกลูกก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีอย่างแน่นอน

” เคล็ด(ไม่) ลับ เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ และเป็นคนดี”

1. เข้าใจมุมมองที่แตกต่าง

2. วิธีการเลี้ยงลูก เริ่มจากตัวคุณ

3. รู้จักยืดหยุ่น วิธีสอนลูกให้ตั้งใจเรียน

4. อย่ าคิดว่าลูกผิ ดเสมอไป

5. เปลี่ยนวิธีถ้าไม่ได้ผล

6. ปรับเปลี่ยนท่าที และมุมมองของลูกอย่างมีชั้นเชิง

7. เคารพในความคิดของลูก

 

 

ขอบคุณ : theasianparent

Load More Related Articles
Load More By J_Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

เตือนใจมนุษย์เงินเดือน จะได้ไม่เสียใจตอนแก่..

ความจริงเป็นสิ่งไม่ ต า ย แต่ความจริงหลายๆ อย่างก็ย ากท … …