Home ข้อคิด (อ่านแล้วจะไม่รู้สึกท้อแท้กับชีวิต)หากสิ้นวาสนาต่อกันแล้ว..รักมากแค่ไหนก็ต้องจาก

(อ่านแล้วจะไม่รู้สึกท้อแท้กับชีวิต)หากสิ้นวาสนาต่อกันแล้ว..รักมากแค่ไหนก็ต้องจาก

10 second read
ปิดความเห็น บน (อ่านแล้วจะไม่รู้สึกท้อแท้กับชีวิต)หากสิ้นวาสนาต่อกันแล้ว..รักมากแค่ไหนก็ต้องจาก

นานมาแล้วมีคู่รักคู่หนึ่งรักกันมาก คบกันมา3 ปี ทั้งสองคนตกลงจะแต่งงานกัน กำหนดวันเรียบร้อย

ฝ่ายชายเองก็รอ วันที่จะแต่งงาน และต่อมาฝ่ายชายรู้ข่ าวว่า คู่รักของตนแต่งงานกับคนอื่นกะทันหันมาก

และฝ่ายหญิงเองก็เต็มใจ ไม่ได้ถูกบังคับ เมื่อทราบข่าว เขาทั้งงงและเสียใจมาก ร้องไห้ไม่กินไม่นอน

ต่อมาก็ได้ป่ วยหนักเพราะตรอมใจ และป่ วยหนักขึ้นเรื่อย ๆ ไปหาหม อตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ดีขึ้น

ขณะที่นอนซมอยู่ที่บ้าน มีหลวงตาแก่ ๆ ผ่านมา พอมาถึงหลวงตาหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน

แล้วมองไปในบ้าน แล้วเคาะประตู และเด็ กรับใช้เดินออกมาเปิดประตู พบว่าเป็นพระจึงพูดไปว่า

“ไม่ทำบุญ นิมนต์ข้างหน้า” หลวงตา ท่านยิ้มอย่างมีเมตตา “อาตมาไม่ได้มาบิณฑบาตหรอก

ในบ้านมีคนป่ วยใช่ไหม อาตมาอาจจะพอช่วยได้บ้าง”

เด็ กรับใช้ได้ฟัง ก็อึ้งไป แล้วบอกว่า “ขอไปถามเจ้านายก่อนนะ” และเจ้านายตอบอย่างตัดรำค าญว่า

“อย ากเข้ามาก็เข้ามา” พอหลวงตาท่าน เข้าไปที่ห้องนอน เห็นชายคนนั้น นอนอย่างหมดอาลัยอยู่

สีหน้าซีด ร่างกาย ผอม เหมือนไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เด็ กรับใช้นำน้ำมาถวายหลวงตา

พร้อมจัดเก้าอี้ถวายข้าง เตียงของชายคนดังกล่าว หลวงตาท่านยิ้มแล้วพูดว่า “อาก ารหนักเลยนะ”

ชายคนนั้นเงียบ ไม่สนใจใน สิ่งที่หลวงตาพูด หลวงตาจึงกล่าวว่า “โท ร ม มากเลยนะ” ชายคนนั้นก็ไม่ใส่ใจ

“ไม่เชื่อ ลองมองที่กระจกนะ” ชายคนนั้นไม่สนใจ แต่ขณะที่หางตาชายไปที่กระจก แต่งตัวในห้องนอน

เขามองเห็นภาพ ของคนที่รักอยู่ในนั้น ไม่นานนัก ภาพของคนรัก ก็ค่อย ๆ หายไป

กลายเป็นภาพทิวทัศน์ ชายทะเล ที่นั่นเงียบสงบ ไม่มีคนผ่านไปมาเลย ขณะที่ชายป่ วยนั้น

มองภาพในกระจก เพราะความสนใจ เขาจึงรู้ว่ามี ศ พ หญิงสาวนอนเปลื อ ยก ายอยู่ที่ชายหาดนั้น

พอเวลาผ่านไปได้ไม่นาน มีชายคนนึงเดินผ่านมา เขามองเห็น ศ พ หญิงคนนั้นด้วยความรั งเกี ย จ

จากนั้น จึงเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว ต่อมาอีกไม่นาน มีชายอีกคนเดินผ่านมา

มองเห็นร่างนั้น เขาสงสารจึงถ อ ด เสื้อนอก ออกมาคลุมร่างของหญิงคนนั้น แล้วจึงเดินจากไป

พักใหญ่ ๆ อีกเช่นเคย มีชายอีกคนเดินผ่านมา พบคนนอนมีผ้าคลุม ส่งกลิ่ นเหม็ น คละคลุ้งไปทั่ว

เขาจึงได้เปิดออกดู แล้วพบว่าเป็น ศ พ ด้วยใจสงสาร จึงจะฝั งให้ แต่ก็ไม่มีเครื่องมือจะขุด

เขาเลยตัดสินใจใช้มือทั้งสองข้าง ค่อย ๆ กอบทรายขึ้นมาทีละนิด ไปเรื่อย ๆ จนเย็น

เมื่อได้หลุมใหญ่ พอสมควร จึงได้ฝั งร่ าง ผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อย แล้วเดินจากไป

จากนั้นภาพในกระจก ก็เปลี่ยนเป็นภาพของ ศ พ หญิงคนนั้น แล้วก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็น

ภาพของหญิงคนรัก เขาเห็นแล้ว ก็ตกใจ พอสักพักก็ปรากฏเป็นภาพชายคนที่ 2 แล้วก็ค่อย ๆ จางไป

เหลือแต่เงาของตน ในกระจก แล้วหลวงตาพูดว่า “ทีนี้เข้าใจหรือยังล่ะ ร่างนั้นคือคู่รักของโยม

ชายคนที่ช่วยฝั งร่ างเธอ ผูกวาสนากับเธอหนึ่งชาติ ชาตินี้เธอก็เลยแต่งงานกับเขา

ส่วนโยมนั้น ช่วยคลุม ผูกวาสนา 3 ปี และตอนนี้ มันครบ 3 ปี วาสนาสิ้นแล้ว ก็ต้องจาก”

พอชายคนนั้นฟังจบ ก็ก ระอั ก เลื อ ด ออกมา หลวงตา ยิ้มแล้วบอกว่า “โยมรอดแล้ว

เมื่อกี้โยม ก ระอั ก เลื อ ดเสี ยออกมาแล้ว” แล้วชายคนนั้นก็ได้ออกบวช ติดตามหลวงตา

คนเราเจอกันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ “เมื่อมีวาสนาไม่ต้องเรียกร้อง ถึงเวลาก็มาเจอกัน”

“เมื่อสิ้นวาสนา ก็ต้องจากกัน” ในตอนที่ยังไม่จากกันนี้ คุณได้ทำดีต่อคนรักของคุณแค่ไหน

เพราะถึงเวลาที่ต้องจาก ไม่ว่าคุณจะมีเงินหรืออำน าจล้นฟ้า ก็ซื้อเวลากลับคืนมาไม่ได้

ทำดีต่อกันไว้ดีกว่า เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า เราจะต้องจากกันตอนไหน

ดูแลกันเข้าไว้ ก่อนจะไม่มีใครให้ดูแล

“หากมีวาสนาร่วมกัน ต่อให้เดินรอบโลก
ก็ยังเดินมาเจอกันอยู่ดี แต่หากไร้วาสนาต่อกัน
ต่อให้เจอกันทุกวัน ก็ยังคงเดินสวนกันอยู่ดี”

 

ขอบคุณ : c h o n b u r i p o s t

Load More Related Articles
Load More By J_Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

เตือนใจมนุษย์เงินเดือน จะได้ไม่เสียใจตอนแก่..

ความจริงเป็นสิ่งไม่ ต า ย แต่ความจริงหลายๆ อย่างก็ย ากท … …