ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เป็นเรื่องย ากมาก เพราะลูกเริ่ม
มีความคิดเป็นของตัวเอง บางทีก็สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า
บางครั้งลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการสักเท่าไรนัก
ฉะนั้นจึงใช้วิธีทำหูทวนลม เพิกเฉยต่อคำพูดของพ่อแม่ และมันอาจนำมาสู่ การมีปัญหากันได้
1. หาว่าอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง
หากลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง บางครั้งอาจเป็นเพราะกำลังโก รธ เสียใจ
หรือต้องการให้พ่อแม่เอาใจ สิ่งที่ควรทำ คือ พูดคุยและ หาคำตอบ ว่าเพราะอะไรทำไม
ลูกไม่เชื่อฟังและบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีพ่อแม่อยู่ข้างๆ เสมอนะ
และทั้งนี้ควรสังเกตทัศนคติวิธีคิดด้วย รวมถึงการพูดของลูก ก็เพื่อที่จะเข้าใจลูกมากขึ้นด้วยนั่นเอง
2. สอนด้วยการ ใช้เทคนิคแบบเข้าใจง่ายๆ
เพราะเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆ พร้อมกันไม่เข้าใจ สิ่งที่ควรทำนั้นคือ
ใช้เทคนิคสอนเขา ให้จำง่ายขึ้น เช่น มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ติ หรือ พูดให้ตื่นเต้น
เช่น วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม เพราะทำให้ลูก
ไม่อย ากทำต าม อย่างเช่น ห้ ามดื้อ ก็ควรเปลี่ยนเป็น แม่ชอบลูก ตอนที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยนะ
นอกจากนี้ พ่อแม่อาจเปลี่ยนมาใช้การให้คะแน น เพื่อให้ลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังมากขึ้นก็ได้นะ
3. สอนด้วยคำพูด สายตาแห่งความรัก
เมื่อไรที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ได้ที่จะตะคอ กลูก จากคำพูดแร งๆ ของคุณ
ทั้งยังไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย และการขึ้นเสียง การตะคอ กนั้นมันอาจทำให้
ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ทว่าในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี ฉะนั้นแล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ เริ่มจากดึงความสนใจ
ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำพูดง่ายๆ ให้ลูกทบทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ไม่ดุดัน
ให้คุณลองเปลี่ยน เป็นบอ กทางป้องกั น แก้ปัญหาจะดีกว่านะ นอ กจากคำพูดกับน้ำเสียงแล้ว
ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกรับฟังมากขึ้น พูดกับเขาดีๆ พูดด้วยสายตาแห่งความรัก แล้วคุณจะเข้าใจลูกมากขึ้น
4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก
เพราะบางครั้ง สิ่งที่พ่อแม่คิด มันก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไปหรอกนะ เพราะเด็ กแต่ละคน
พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตัวเอง และสิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร
และมีอะไรอยู่ในใจ จากนั้นจงตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด เพื่อช่วยให้ลูกผ่อ นคล า ยความกังวลได้
5. สอนด้วย การมีข้อตกลง ระหว่างกัน
แต่ทว่านะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ชอบ ที่ไม่ชอบของตัวเองเช่นกันนะ และบ่อยครั้ง ที่คุณให้ลูก
ทำสิ่งที่ไม่ชอบ นานจนลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง และสิ่งที่ควรทำนั้น คือ เด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยแห่งการต่ อต้ าน
ฉะนั้น ลองให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันดูสิ เพื่อลดการโต้เถียงหรือการชวนทะเล า ะลงได้
6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง
ในช่วงวัยเด็ ก เขามักจะลอ กเลียนแบบ พฤติก ร ร มของคนใกล้ชิด
และไม่สามารถแยกแยะได้ ว่าอะไรไม่ควร อะไรควร มันจึงทำให้หลายครั้งลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม
ที่มันไม่ดีของผู้ใหญ่ เมื่อถูกตำหนิและต่อว่าลูกจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพ่อแม่ยังทำได้เลยล่ะ
และการทำให้ลูกเกิดความสงสัย และพ่อแม่ไม่อธิบายนั้น มันก็เป็นสาเหตุ
ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และสิ่งที่ควรทำนั้น คือ ลูกเรียนรู้จาก
การกระทำได้ดีกว่าคำพูด เพราะงั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรทำได้ อะไรไม่ควรทำ
7. สอนลูก ใช้ความคิด แก้ปัญหาด้วยตัวเองได้
เพราะประโยคคำสั่งนั้น มันก็ทำให้ลูกรู้สึกว่า ตัวเองไม่ได้เรื่องเอาซะเลยนะ
ทำอะไรก็ไม่ดี ทั้งนี้มันก็ส่งผลต่อให้ลูกไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น ทั้งยังอาจกลายเป็นคนไม่มั่นใจไปเลย
ไม่กล้าที่จะคิดริเริ่มอะไรใหม่ๆ สิ่งที่ควรทำนั้น คือ ต้องฝึกให้ลูกใช้ความคิดและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
เช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ และนอกจากนี้ควรหา
กิจก ร ร มสนุกๆทำร่วมกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกทำไม่ถูกต้อง
จะได้สอนลูกให้คิดแก้ปัญหา แทรกเรื่องของคุณธรรม จริยธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
ขอบคุณ : a b o u t m o m