แม้ว่าเงินจะเป็นสิ่งที่ทุกคนใช้กัน อยู่ทุกวี่วัน แต่ก็ยังมีอีกหลายคนนักที่ยังไม่เข้าใจ ความจริงเรื่องเงิน อย่างถ่องแท้
จำนองบ้านไม่ใช่คำตอบสุดท้าย
ในบางช่วงชีวิตคน อาจจะเจอมรสุมชีวิตและต้องการเงินก้อนใหญ่ ในการแก้ปัญหานั้น ถ้าเป็นคนที่มีบ้าน ทางเลือกที่ดีที่สุดที่คุณคงจะนึกถึงก็คงเป็นการนำบ้านไปจำนอง
ซึ่งดอกเบี้ย ของสินเชื่อบ้านปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 6% – 8% แล้วแต่สภาบันทางการเงินนั้นๆ ซึ่งมันอาจจะน้อยกว่า อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลก็จริง
แต่อย่ าลืมว่าหากคุณจำนองบ้าน คุณต้องใช้เวลาชำระคืนเป็นสิบๆ ปี ถ้าคุณกู้สินเชื่อ ส่วนบุคคล แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแพงกว่า (สูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปี) แต่ระยะเวลาการชำระเงินคืนน้อยกว่า
กลายเป็นว่าการเอาบ้าน ไปจำนองนั้นอาจจะทำให้คุณเสียเงินเยอะกว่าการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลอีกนะคะ
หากคุณจ่ายเงินก่อนเก็ บเงิน คุณจะไม่ได้อะไรเลย
หากเงินเดือนคุณออก แล้วคุณใช้จ่ายเงินไปโดยที่ไม่คิดจะกันไว้ สำหรับเงินเก็ บ สุดท้าย คุณอาจจะไม่เหลือเงินเอาไว้เก็ บก็ได้ เพราะคุณใช้จ่ายไปหมดแล้ว
จะดีกว่าไหม ถ้าเงินเดือนคุณออก แล้วคุณรีบหักเงินเก็บไว้ ในอีกบัญชีทันที ก่อนที่คุณจะเอาเงินเดือนไปใช้จ่ายอะไรก็ตาม วิธีนี้ จะช่วยให้คุณมีเงินเก็บ และมีวินัยในการใช้จ่ายเงินมากขึ้นด้วยนะคะ
มูลค่ามันคนละเรื่องกับราคา
การที่เราเลือกซื้อ ของที่ถูกมากๆ มันอาจจะทำให้คุณต้องเสียเงิน ซื้อซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เนื่องจากสินค้านั้นๆ มีคุณภาพไม่ดีพอ กลายเป็นว่าราคาสิ่งของที่ถูกๆ
พอรวมกันอาจจะแพงกว่า สิ่งของที่ราคาแพง แต่มีคุณภาพสูงและมีอายุการใช้งานที่ย าวนานก็เป็นได้
ไม่มีประกั น ภั ย = ไม่มีเงิน
“โจรปล้ น สิบครั้ง ไม่เท่าไ ฟ ไหม้ครั้งเดียว” สำนวนโบราณนี้นับว่าเป็นเรื่องจริง เพราะหากคุณไม่ได้ทำประกั น ภัยรถยนต์หรือประกันทรัพย์สินเอาไว้ อนาคตเมื่อเกิดเห ตุการณ์ไม่คาดฝัน
คุณอาจจะต้องเสียเงินจำนวนมหาศาล มากกว่า ราคาเบี้ยประกั น ที่คุณต้องจ่ายหลายเท่า เผลอๆ อาจจะเป็นเงินเก็ บทั้งชีวิตคุณเลยก็ได้ เพื่อจ่ายค่าซ่อมรถ ค่าโรงพย าบาล หรือค่าซ่อมบ้านใหม่ และอื่นๆ อีกจิปาถะมากมายไปหมด
ดังนั้นการมีประกั น ภั ยต่างๆ เอาไว้เพื่อซื้อความเสี่ ย ง ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่านะคะ
บ้านของคุณไม่ใช่สิ่งที่จะเอาไปลงทุน
หลายคนคงเคยได้ยิน ว่าบ้านนั้นคือการลงทุนเพราะมันได้กำไรแน่นอน บ้านที่ดินซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้น แต่โดยทั่วไปแล้วบ้านนั้นไม่ใช่การลงทุนนะคะ
เพราะถ้าคุณซื้อเพื่อ อยู่อาศํยเพียงอย่ างเดียว ไม่ใช้ประโยชน์ให้มีรายได้เข้ามา ก็ถือว่าบ้านนั้นเป็น หนี้สิน ดีๆ นี่เอง ดังนั้นถ้าคุณคิดจะขายบ้านเอากำไร คุณก็จะต้องซื้อบ้านหลังใหม่ อยู่ดี เอาจริงๆ คุณแทบจะไม่ได้อะไรเลย
อย่ าซื้อ เพียงเพราะทุกคนก็ซื้อ
หลายต่อหลายคน มักจะซื้อของตามคนอื่น หรือเพียงเพราะเห็น คนอื่นซื้อแล้วดี ตัวเองก็เลยอย ากดีตามคนอื่นไปด้วย เช่น ซื้อหุ้น หรือ อสังหาริมทรัพย์
ซึ่งพอขาดทุนทีก็เสียหายกันไป เป็นแถว ในการซื้ออะไรก็ตาม จะดีกว่าถ้าคุณใช้ความรู้สึกและสัณชาตญาณของคุณเอง ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรควรโฟกัสไปที่รายจ่ายมากกว่ารายรับ
หลายคนมักจะได้ยิน คำกล่าวที่ว่า “ฉันจะมีเงินเก็ บมากขึ้น หากฉันมีรายได้มากขึ้น” หรือ “ฉันไม่สามารถเก็ บเงินได้ เพราะเงินเดือนฉันมันน้อยมาก” ความเชื่อนี้ถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะคุณมองปัญหาผิดจุดต่างหาก
สิ่งที่คุณควรจะโฟกัสจริงๆ คือรายจ่ายที่คุณควร จะทำให้มันลดลง ไม่ใช่รายได้ของคุณได้มาเท่าไหร่ เชื่อเราเถอะค่ะ 100 ทั้ง 100% เมื่อมีรายได้มากขึ้น ก็ยิ่งใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
ไม่ว่า คุณจะมีรายได้เท่าไหร่ สิ่งที่คุณควรจะทำให้ได้คือการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้คุณใช้จ่ายเงินให้น้อยลง และวิธีนี้แหละ ที่จะทำให้คุณมีเงินเหลือมากขึ้น และมีเงินเก็ บนั่นเอง
ดังนั้น สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุด ของคุณก็คือ ตัวของคุณเอง จงพย าย ามรักษ าดูแลมันเอาไว้ เพื่อหนทางไปสู่ความประสบความสำเร็จทางการเงิน
“การมีเงินเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถ
ทำให้คุณร่ำรวยได้ เพราะเงินจะวิ่งเข้า-ออก
ตามระดับความฉลาดทางการเงิน
ของผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้น
ความฉลาดทางการเงิน
เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้คุณ ..รวยได้”
ขอบคุณ : s a n o o k